ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่นำมาใช้ในการเร่งรัดภาษีอากรค้าง
มาตรา 290
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ยึดหรืออายัดทรัพย์สิน อย่างใดของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว
ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้นซ้ำอีก แต่ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเช่นว่านี้มีอำนาจยื่นคำขอโดยทำเป็น
คำร้องต่อศาลที่ออกหมายบังคับให้ยึดหรืออายัดทรัพย์สินนั้น เพื่อให้ ศาลมีคำสั่งให้ตนเข้าเฉลี่ยในทรัพย์สินหรือเงินที่ขายหรือจำหน่าย
ทรัพย์สินนั้นได้ ตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ห้ามมิให้ศาลอนุญาตตามคำขอเช่นว่ามานี้ เว้นแต่ศาลเห็นว่าผู้ยื่นคำขอไม่สามารถเอาชำระได้จากทรัพย์สิน
อื่น ๆ ของลูกหนี้ตามคำพิพากษา
เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยภาษีอากรในอันที่จะ สั่งยึด หรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อชำระค่า
ภาษีอากรค้าง ให้มีสิทธิเฉลี่ยในทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานดังกล่าวได้ ยึดหรืออายัดไว้ก่อนแล้วเช่นเดียวกับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาตาม
ความในวรรคหนึ่ง แต่ถ้าเจ้าพนักงานมิได้ยึดหรืออายัดไว้ก่อน ให้ขอเฉลี่ยได้ภายในบังคับของบทบัญญัติวรรคสอง
ในกรณีที่ยึดทรัพย์สินเพื่อขายทอดตลาดหรือจำหน่ายโดยวิธีอื่น คำขอเช่นว่านี้ให้ยื่นก่อนสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันที่มีการขาย
ทอดตลาดหรือจำหน่ายทรัพย์สินนั้น
ในกรณีที่อายัดทรัพย์สิน ให้ยื่นคำขอเสียก่อนสิ้นระยะเวลา สิบสี่วันนับแต่ชำระเงินหรือส่งทรัพย์สินตามที่อายัดไว้
ในกรณียึดเงินให้ยื่นคำขอเสียก่อนสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันยึด
เมื่อได้ส่งสำเนาคำขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีแล้ว ให้เจ้าพนักงาน บังคับคดีงดการจ่ายเงินหรือทรัพย์สินตามคำบังคับไว้จนกว่าศาลจะ
ได้มีคำวินิจฉัยชี้ขาด เมื่อศาลได้มีคำสั่งประการใดและส่งให้เจ้า พนักงานบังคับคดีทราบแล้ว
ก็ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีปฏิบัติไปตาม คำสั่ง เช่นว่านั้น
ในกรณีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยึดสละสิทธิในการบังคับคดี หรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับ
คดีกำหนด ผู้ขอเฉลี่ยหรือผู้ยื่นคำร้องตาม มาตรา 287 หรือตาม มาตรา 289 มีสิทธิขอให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป
คำสั่งอนุญาตของศาลตามวรรคแปดให้เป็นที่สุด
*หมายเหตุ แก้ไขครั้งโดยท้ายโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉ.18) พ.ศ.2542
มาตรา 291 เมื่อศาลได้ยกคำร้องขอเฉลี่ยเสียโดยเหตุที่ยื่นไม่
ทันกำหนด ผู้ขอเฉลี่ยคำร้องต่อศาลได้อีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะมีการส่ง คำบอกกล่าวตามที่บัญญัติไว้ใน
มาตรา 319 เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่ง
อย่างใดอย่างหนึ่ง ดั่งต่อไปนี้
(1) ให้ผู้ยื่นคำขอมีสิทธิได้รับชำระจากเงินที่เหลือภายหลังที่ได้ ชำระให้แก่เจ้าหนี้ผู้ ยึดแล้ว
(2) ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ถอนการยึด หรือเจ้าหนี้ผู้ยึดสละสิทธิ
ในการบังคับคดี ให้ถือว่าผู้ขอเป็นเจ้าหนี้ผู้ยึดต่อไปตั้งแต่วันที่ได้ยื่น คำร้องและให้ดำเนินการบังคับคดีไปตามนั้น
คำสั่งอนุญาตของศาลตาม มาตรานี้ ให้เป็นที่สุด
*หมายเหตุ แก้ไขครั้งโดยท้ายโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมาย
วิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉ.18) พ.ศ.2542